พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง จับมือห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์รับบริจาคสิ่งของและอุปกรณ์การเรียนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบาง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง นำโดย บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จับมือ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกัน จัดโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” โดยได้รับเกียรติจาก นายพุทธิชัย ไชยเวช General Manager ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ โดยมี นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน และ นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรังกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า สำหรับช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ของเด็กและเยาวชน ซึ่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีความจำเป็นและความต้องการความช่วยเหลือในการแบ่งเบาภาระด้านการลดค่าใช้จ่ายเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน ซึ่ง พม. โดย บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ในสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้เล็งเห็นความสำคัญในการแบ่งเบาะภาระทางด้านการเงินในการใช้จ่ายค่าอุปกรณ์การเรียนของผู้ปกครอง จึงจับมือกับห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกันจัดกิจกรรมเปิดจุดรับบริจาคอุปกรณ์การเรียน ภายในห้าง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของให้แกเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้พบเห็นต่างร่วมกันนำสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับเด็กและเยาวชนมาบริจาคให้อย่างมากมาย พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรังขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำส่งทุกสิ่งที่ได้รับบริจาคมาส่งต่อให้แก่เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางอย่างครบถ้วน
ด้าน นายพุทธิชัย กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility-CSR) โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ถือเป็นช่วงที่เด็กและเยาวชนเริ่มเปิดเทอมใหม่ ตั้งใจดำเนินโครงการ Back to School อยู่แล้ว ทันทีที่มีบุคลากรของ พม.หนึ่งเดียวประสานเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” รีบตอบรับความร่วมมือโดยทันที และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทางด้านนายนิตินัย กล่าวว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหน่วยงานใน พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง มีความตั้งใจดำเนินโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางมีอุปกรณ์การศึกษาพร้อมสำหรับการเปิดภาคการเรียน
​และเกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ จึงใช้โอกาสนี้ เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมบริจาคสิ่งของ อุปกรณ์การเรียนเพื่อนักเรียนที่ต้องการสนับสนุน ร่วมมอบอุปกรณ์การเรียนได้ที่จุดรับบริจาคหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์​​ จังหวัดตรัง ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นอกเหนือจากวันดังกล่าว สามารถบริจาคได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรังโดยตรง หรือโทรแจ้งความประสงค์ในการบริจาคได้ที่โทรศัพท์สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.จังหวัดตรัง ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุและครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว”

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2566 ณ ห้องภัชรัตน์ โรงแรมวัฒนาพาร์ค อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จัดโครงการงานวันผู้สูงอายุและวันแห่งครอบครัวจังหวัดตรัง ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว” โดยมีนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ และมีนางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย สมาชิกในครอบครัวร่มเย็น บุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัวและครอบครัว ผู้สูงอายุที่ได้รับรางวัลและผู้ติดตาม ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดตรัง ผู้แทนศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ผู้แทนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง และประชาชนทั่วไป รวมจำนวน 120 คน กิจกรรมประกอบด้วย เวทีแสดงวิสัยทัศน์ “อนาคตครอบครัวตรัง การชมวิดีทัศน์ “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่าง ที่ดีในสังคมระดับจังหวัด ได้แก่ นายวิรัตน์ แก้วลาย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว ได้แก่ครอบครัว นางโสรญา ช่วยชะนะ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครอบครัวร่มเย็น ได้แก่ครอบครัว นายมะนูญ ถิ่นนัยธร นอกจากนี้ ยังมีการมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ 4 ประเภท รวมจำนวน 12 ราย ได้แก่ เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม จำนวน 4 ราย เกียรติบัตรคลังปัญญาผู้สูงอายุ จำนวน 4 ราย เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว จำนวน 1 ราย และเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติครอบครัวร่มเย็น จำนวน 3 ครอบครัว การจัดบูธแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ จำนวน 6 บูธ ชุดการแสดง จำนวน 2 ชุด ได้แก่ การแสดงรำผ้าขาวม้าประกอบเพลง ชมรมผู้สูงอายุตำบลนาท่ามใต้ และการแสดงรำมโนราห์ประยุกต์ ชมรมผู้สูงอายุโคกหล่อ

นายทรงกลด กล่าวว่า ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานที่เป็นหลักสำคัญที่สุดของสังคม ทำหน้าที่หล่อหลอมและขัดเกลาความเป็นมนุษย์ให้แก่สมาชิกของครอบครัว ด้วยการอบรม เลี้ยงดูให้ความรัก ความเอื้ออาทร ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น ครอบครัวจึงมีความสำคัญและมีอิทธิพลที่สุดต่อชีวิตของทุกคนครอบครัว และในปี 2565 ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” (complete aged society) แล้ว โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี กว่า 12.9 ล้านคน หรือ 20% จากประชากรทั้งหมด และมีการคาดประมาณว่าในอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” (super aged society)

นายทรงกลด กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 กำหนดให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี “เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี “เป็นวันแห่งครอบครัว” และเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมพิเศษในโอกาสดังกล่าวเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ และสร้างกระแสสังคมทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเผยแพร่ภูมิปัญญามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนอื่นตามศักยภาพของตนเอง และเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความความสำคัญของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวเข้าใจบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเพื่อสร้างแนวคิดให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนสังคมและประเทศชาติ และเพื่อรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น
นายทรงกลด กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกภาคส่วนของสังคม ที่มารวมกัน ณ ที่นี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาครอบครัว และกิจกรรมของผู้สูงอายุจังหวัดตรังให้ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ขอชื่นชมและเชิดชูเกียรติแก่ผู้สูงอายุ ครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี และขอขอบคุณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นพี่เลี้ยงและมีส่วนร่วมในการผลักดัน รวมถึงสร้างโอกาสให้กับชุมชน ได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสถาบันครอบครัวและผู้สูงอายุ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ พม.ตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หากประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนสามารถโทรติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังปล่อยขบวนคาราวานและร่วมลงพื้นที่เยียวยาครัวเรือนเปราะบาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

          วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศาลาการเปรียญ วัดในเขา ตำบลบ้าหวี อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง (สนง.พมจ.ตรัง) จัดโครงการคาราวานเยียวยาครัวเรือนเปราะบาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พมจ.ตรัง กล่าวรายงาน กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จังหวัดตรัง และเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดตรัง จำนวน 200 คน ตลอดจนครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่อำเภอหาดสำราญ จำนวน 30 ครอบครัว

       นายทรงกลด กล่าวว่า รัฐบาลเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  ๖ รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศทุกประการ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดตรัง มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ให้ส่วนราชการ หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่  อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถพิจารณาดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่สอดคล้องตามแนวทางที่กำหนด

      นายทรงกลด กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดตรัง ร่วมกับสนง.พมจ.ตรัง กำหนดจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้ชื่อ “โครงการคาราวานเยียวยาครัวเรือนเปราะบางเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมีกิจกรรมด้านพิธีการและกิจกรรมในพื้นที่ สำหรับกิจกรรมในพื้นที่ประกอบด้วยขบวนรถคาราวานจากหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 15 คัน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านครัวเรือนเปราะบางในอำเภอหาดสำราญไปตามจุดเยี่ยมบ้านพร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้าหวี ตำบลตะเสะ และตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ตำบลละ 10 ครอบครัว รวมทั้งสิ้น 30 ครอบครัว 

 


        ทางด้าน นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ พม.หนึ่งเดียว จังหวัดตรัง (One Home พม. จ.ตรัง) ได้รับความร่วมมือจากวัดในเขา และ อพม.จังหวัดตรัง ในการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการเยียวยาครัวเรือนเปราะบาง โดยได้รับการสนับสนุนสมทบทุนบริจาคปัจจัยจากหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดตรัง ตลอดจนเครือข่ายต่างๆ จากทุกภาคส่วน ในการนี้ รายได้ส่วนหนึ่งเป็นค่าเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 30 ชุดแจกจ่ายให้กับประชาชนในครัวเรือนเปราะบาง และเพื่อร่วมบุญปูพื้นรอบอุโบสถ วัดในเขา สุดท้ายนี้ พม.จังหวัดตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นการทำงานแบบ พม.หนึ่งเดียว ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจกระทรวง พม. ให้บรรลุผลเกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการป้องกันปัญหาความรุนแรงต่อสวัสดิภาพของประชาชนโดยในวันนี้ พม.จังหวัดตรังได้เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ช่วยกัน แอดไลน์ ESS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากพบเห็นหรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ถูกข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งและการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัย แก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


One Home พม.จังหวัดตรัง ร่วมจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ

      ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ทีม One Home พม.จังหวัดตรัง นำทีมโดย นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง และนางสาวกิติยา วงศ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดตรัง ร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ จังหวัดตรัง ประจำปี 2567 ภายใต้คำขวัญ “ มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย ในพื้นที่จังหวัดตรัง ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ในการนี้ ได้มีเด็กและเยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรังมาร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คือ สำนักงานการเคหะแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดตรัง นำโดย นายสุวัฒน์ เวียงคำ เคหะจังหวัดตรัง ได้จัดกิจกรรมสร้างความสุขให้กับเด็กๆและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนการเคหะจังหวัดตรัง โดยจัด ณ สวนสาธารณะโครงการเคหะชุมชนตรัง ระยะ 1 จังหวัดตรังอีกด้วย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า วันเด็กแห่งชาติถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ควรค่าแก่การดำรงรักษาไว้ตลอดไป เพราะวันนี้เป็นวันที่เห็นภาพความรัก ความอบอุ่นของคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองแสดงออกต่อบุตรหลานในครอบครัวได้อย่างชัดเจน เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน โดยที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเด็กๆ ได้แสดงออกอย่างเต็มที่ เห็นถึงความน่ารัก ความไร้เดียงสาของเด็กๆ เห็นถึงความรักความเมตตา การดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน ทุกๆ กิจกรรมที่จัดให้เด็กๆ สามารถเติมความสุข สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เด็กและเยาชน ตลอดจนคนทุกช่วงวัยในครอบครัวที่มานั่งเฝ้าดูแลบุตรหลานที่มาร่วมกิจกรรมได้อย่างชัดเจน และงานวันเด็กปีนี้ตนได้มีโอกาสไปร่วมงานวันเด็กหลายแห่ง ทั้งร่วมเป็นประธานเปิดงาน และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน ได้เห็นถึงรูปแบบการจัดงานในที่ต่างๆ ถึงแม้จะต่างสถานที่ในการจัดงาน แต่รูปแบบการจัดงานและภาพแห่งความสุข สนุกสนาน และความน่ารักของเด็กๆ ในทุกที่ไม่มีที่ใดด้อยไปกว่ากันเลย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจัดกิตกรรมวันเด็กแห่งชาติปีนี้ในส่วนที่ One Home พม.จังหวัดตรังร่วมจัดบูธกิจกรรมสร้างความสุขให้กับเด็กๆ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ภายใต้การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ พม.จังหวัดตรังได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนทั้งของรางวัลและพลังคนสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ จากเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่าย CSR ตลอดจนภาคประชาชน รวมกว่า 30 เครือข่าย ซึ่งกิจกรรมแห่งแรก ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรังในซุ้มเพื่อเด็กๆ ได้แก่ กิจกรรมทำขนมโดนัท การเล่มเกมส์ การตอบคำถามชิงรางวัล และมีกิจกรรมการมอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น โดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี และมอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 จากสมาคมสภาสังคมสงเคราห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะที่ได้เข้าร่วมการสรรหาเป็นเด็กดีเด่น จำนวน 2 คน คือ 1) ด.ญ. พราวนภัสสร์ เหล่ากุลวานิช ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพรศิริกุล 2) ด.ช.ขจรศักดิ์ คืนตัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนตรังรังสฤษฎ์ สำหรับกิจกรรมแห่งที่สองในบูธกิจกรรม ณ สนามกีฬากลางเทศบานครตรัง เป็นความร่วมมือกับเครือข่าย CSR มาร่วมกันจัดกิจกรรมเล่นเกมส์ ตอบคำถาม แจกของรางวัล และมีทีมสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง มาร่วมเล่นดนตรีสด ร้องเพลง พร้อมทั้งทำข้าวไข่เจียวแจกผู้มาร่วมงานกว่าพันฟองอีกด้วย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับเด็ก ๆ ทุกคน ที่กำลังต้องเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่มีความท้าทายมากจากการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เด็กจึงต้องมีการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ทางสังคมได้ ภายใต้คำขวัญ “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่างและร่วมกันสร้างประชาธิปไตย และขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณให้การสนับสนุนของขวัญของรางวัล ในกิจกรรมวันเด็กในวันนี้ทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ตลอดจนองค์กร CSR จังหวัดตรัง สุดท้ายนี้ พม.จังหวัดตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และวันนี้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ขอเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ช่วยกัน แอดไลน์ ESS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยแก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม. ร่วมกับเครือข่าย ปรับสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย ของผู้ประสบปัญหาทางสังคม

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 น. นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ร่วมมอบบ้านซึ่งได้รับการปรับสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ได้รับการสนับสนุนจาก CRS ให้แก่ครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคม อาศัยอยู่ ต.นาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง โดยมีนายไมตรี อินทุสุต อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมนางภาวิณี อินทุสุต (ปุณณกันต์) อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง สนับสนุนงบประมาณส่วนตัวในการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัว จำนวน 55,000 บาท โดยมีนายศิร ศรีเมฆชัยกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ และนายสัญญลักษณ์ อยู่รักษ์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองขุนทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมให้กำลังใจกับครอบครัวดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงระเบียบสิทธิการช่วยเหลือของกระทรวง พม.ให้ทราบ


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

  วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. นายไมตรี  อินทุสุต อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และอดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนางภาวิณี  อินทุสุต อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง เยี่ยมบ้านนางหนูขิน  รอดไกร ราษฎรหมู่ที่ 6 ตำบลนาโต๊ะหมิง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ซึ่งได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จากงบประมาณโดยนายไมตรีฯ และภริยา จำนวน 30,000 บาท และงบประมาณโครงการปรับสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย ปี พ.ศ. 2565 โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จำนวน 20,000 บาท พร้อมนี้นายไมตรีฯ และนางภาวิณีฯ ได้มอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จำนวน 150 ราย

          ในการนี้ นางสาวโสพิญฐ์  สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง มอบหมายนายนิติภัทร  จอมเมือง นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ นางสาวรุจิรา  สมจริง นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ และนางสาวสุธาดา  ยกฉวี นักพัฒนาสังคม เยี่ยมบ้านให้กำลังใจ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 1 ชุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย CSR (บริษัทตรังยูซี จำกัด)  รวมทั้งประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงานกระทรวง พม. และระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (ESS Help Me) แก่ผู้เข้าร่วมงาน ในส่วนของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาโต๊ะหมิง และเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตลอดจนเครือข่ายในพื้นที่เข้าร่วม


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.จังหวัดตรัง ขานรับ Kick Off รณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัว พร้อมกันทั่วประเทศ

      วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงเรียนวัดนานอน ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ จัดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “รวมพลังหยุดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว” (Unite for the Prevention of Violence Against Women & Children) โดยมี นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ และมีนายชาลี เมืองนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของโครงการฯ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. (One Home) จังหวัดตรัง สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ครูและนักเรียนโรงเรียนวัดนานอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ กว่า 100 คน ร่วมเดินขบวนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2566 พร้อมแจกเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งเหตุสายด่วน 1300 และ LINE APPlICATION @ESS HELP ME เมื่อพบเจอ หรือประสบเหตุความรุนแรง ตลอดจนให้ข้อมูล ตอบข้อซักถาม แก่ประชาชนตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านระยะทางประมาณ 2 กม.

นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการจัดงานเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวจังหวัดตรังในวันนี้ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พม.จังหวัดตรัง ได้เชิญชวนผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดตรังติดเข็มกลัดริบบิ้นขาว (White Ribbon) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวร่วมกันแล้ว นำโดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สำหรับกิจกรรมเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงฯ ในวันนี้ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เห็นความสำคัญของ “การรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว” จึงได้ขอความร่วมมือทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเพื่อ Kick Off รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว และถ่ายทอดสด ผ่าน Facebook fanpage กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ อีกด้วย

นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ เป็นปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย ซึ่งปรากฏให้เห็นมาเป็นเวลานาน และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี ผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กและสตรี ต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ 1. เมาสุรา/ยาเสพติด 2.ปัญหาสุขภาพกาย/จิต และ 3.นอกใจ/หึงหวง ตามลำดับ ทั้งนี้ ปัญหาความรุนแรงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวมอีกด้วย จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ด้วยการรวมพลังหยุดความรุนแรงฯ หากพบเห็นสามารถแจ้ง ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน ๑๓๐๐ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือ แจ้งผ่านระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ปักหมุด หยุดเหตุ Ess Help Me ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ที่ทุกคนสามารถโหลดติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัย แก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.ตรังเดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง

       เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30 น. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จัดประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางจังหวัดตรัง ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องมรกต ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยมี นายสกุล ดำรงเกียรติกุล ปลัดจังหวัดตรัง รักษาราชการแทนรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าว นายสยาม  นนท์คำจันทร์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง โดยมี นางสาวโสพิญฐ์  สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมด้วยในฐานะคณะทำงาน และเป็นหน่วยงานหลักที่รับหน้าที่เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ตามคำสั่งจังหวัดตรัง เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางจังหวัดตรัง ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ซึ่ง วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมทางรถไฟในจังหวัดตรัง  และพิจารณาแผนการขับเคลื่อนงานฯ ในปี 2566 – 2567 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยคณะทำงานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเครือข่ายพัฒนาสิทธิชุมชนภาคใต้ รวมจำนวน 40 คน

  

       นางสาวโสพิญฐ์  กล่าวว่า แนวทางในการดำเนินโครงการสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ตามที่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้อนุมัติแผนงานและงบประมาณโครงการ สนับสนุนการขับเคลื่อนงานชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง จำนวน 35 จังหวัด 300 ชุมชน 27,084 ครัวเรือน งบประมาณ 7,718 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ภาคใต้ 9 จังหวัด 73 เมือง 171 ชุมชน 15,168 ครัวเรือน  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง  สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยทุกมิติที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และสามารถพัฒนาให้เป็นรูปธรรม/ความสัมพันธ์ในแนวราบ ระหว่างชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ 

         นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับจังหวัดตรังมีชุมชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ใน 4 อำเภอ 14 ตำบล 26 ชุมชน 1,882 ครัวเรือน โดยเป็นอำเภอห้วยยอด 12 ชุมชน 731 ครัวเรือน อำเภอกันตัง 8 ชุมชน 731 ครัวเรือน อำเภอเมือง 4 ชุมชน 331 ครัวเรือนและอำเภอรัชดา 2 ชุมชน 380 ครัวเรือน โดยในปัจจุบันมีชุมชนที่ได้รับสัญญาเช่าจากการรถไฟประเทศไทยแล้วและได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เรียบร้อยแล้ว อยู่ในระหว่างเตรียมการเบิกจ่ายงบประมาณ และคาดว่าน่าจะดำเนินการก่อสร้างชุมชนได้ในเดือนธันวาคมปีนี้ ประกอบไปด้วย อำเภอเมือง 1 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหนองยวน 2 จำนวน 29 ครัวเรือน  อำเภอห้วยยอด  2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนชายเขาใหม่พัฒนา (ลำภูลา) จำนวน 72 ครัวเรือน   และชุมชนทางล้อ จำนวน 16 ครัวเรือน และอำเภอรัษฎา 1 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนคลองมวน จำนวน 48 ครัวเรือน ทั้งนี้ ในปี 2567 มีแผนจะดำเนินการใน 8 ชุมชน จำนวน 640 ครัวเรือน เพื่อดำเนินการตามแนวทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพนันระบบรางต่อไป

      

          สุดท้ายนี้ นางสาวโสพิญฐ์  ได้กล่าวเน้นย้ำว่างานพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยเป็นงานสำคัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ได้รับผลกระทบในด้านที่อยู่อาศัย รวมถึงกลุ่มผู้เปราะบางในสังคม ดังนั้นจึงต้องมีการทำงานแบบมีส่วนร่วมในการช่วยกันผู้ได้รับผลกระทบ เน้นไปถึงการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงให้กับมนุษย์ ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย และด้านที่ดินทำกิน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างร้ายได้ในทุกมิติต่อไป


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


ส่งมอบบ้านโครงการปรับสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุ ให้เหมาะสมและปลอดภัย

       วันที่ 24 ตุลาคม 2566 นางสาวโสพิญฐ์  สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง มอบหมายให้ นางจิรพา เรนเรือง นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และนางสาวสุธาดา ยกฉวี นักพัฒนาสังคม ลงพื้นที่ส่งมอบบ้านโครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย ประจำปี 2566 ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายในพื้นที่่ตำบลน้ำผุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จำนวน 3 หลัง


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.ตรัง ร่วมกับ ชมรมจิตอาสาศาสนานำสุข จังหวัดตรัง มอบรางวัล “จิตอาสาคุณาธร” ผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านจิตอาสา

          ในวันอาทิตย์ที่ 8  ตุลาคม 2566  เวลา 13.00 น. นางสาวโสพิษฐ์  สุวรรณหงส์  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล  “จิตอาสาคุณาธร” ผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านจิตอาสา โดยมี นายธีระวัฒน์ สุทธินนท์ ผู้อำนวยการศูนย์เยาวชนจิตอาสา ศาสนานำสุขจังหวัดตรัง เป็นผู้กล่าวรายงาน  ณ อาคารลีละวัฒน์ วัดพระงาม อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง  

          นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า ชมรมจิตอาสาศาสนานำสุข จังหวัดตรัง ก่อตั้งโดย พระมหาธีระยุทธ จิตฺตปุญฺโญ,ดร. ซึ่งดำเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้นำเยาวชนจิตอาสาต้นแบบสันติภาพ โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1. สรรหา 2. พัฒนา และ 3. รักษาไว้  ผ่านรูปแบบ M-V-P-U-T-C MODEL ภายใต้การเรียนรู้สร้างความเข้าใจทั้ง 6 ด้าน คือ 1)Mindfulness ด้านการสร้างสันติภายใน 2)Volunteer ด้านการเป็นผู้นำเยาวชนจิตอาสาต้นแบบ 3)Peacefulmeans ด้านเครื่องมือพุทธสันติวิธี 4)Understanding Multicultural ด้านความเข้าใจความต่างแบบพหุวัฒนธรรม 5)Teamwork and Leadership ด้านการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ และ 6)Communications, Information and Media Literacy ด้านการสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งการดำเนินงานของชมรมฯ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนในจังหวัดตรังให้มีอุดมการณ์เรื่องจิตอาสา พัฒนาบ้านเกิดของตนเอง โดยมีรูปแบบการพัฒนาผู้นำเยาวชน จิตอาสาต้นแบบตามแนวพุทธสันติวิธี และผลิตหลักสูตรเพื่อพัฒนาองค์กรและเยาวชน  ซึ่งเป็นการเสียสละเวลาด้วยจิตที่เป็นสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น

       นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจัดพิธีมอบรางวัล  “จิตอาสาคุณาธร” ผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านจิตอาสาในวันนี้ เพื่อประกอบพิธีทักษิณานุปทานถวายเป็นพระราชกุลแก่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านจิตอาสา และเพื่อพัฒนาผู้นำเยาวชนจิตอาสาต้นแบบสันติภาพ พร้อมกล่าวขอบพระคุณคณะสงฆ์ หน่วยงานราชการ ผู้ปกครองและที่ขาดไม่ได้คือเหล่าผู้นำเยาวชนจิตอาสาต้นแบบสันติภาพทุกคนที่ได้เล็งเห็นความสำคัญจึงมอบรางวัล “จิตอาสาคุณาธร แก่พระสงฆ์ บุคคล องค์กร และเยาวชน ผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านจิตอาสา”   

จำนวน 50 รางวัลดังกล่าว


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]