โครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับ ช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัตน์ติกรณ์ ศรีสุรนันท์ พัฒนาสังคมและความมั่นความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เข้าร่วมพิธีมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อมอบกายอุปกรณ์สำหรับคนพิการเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ได้รับโอกาส สิทธิ สวัสดิการที่เท่าเทียม ทั่วถึง เสริมศักยภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มคนพิการให้ได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิต สามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป และดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง จับมือห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์รับบริจาคสิ่งของและอุปกรณ์การเรียนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบาง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง นำโดย บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จับมือ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกัน จัดโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” โดยได้รับเกียรติจาก นายพุทธิชัย ไชยเวช General Manager ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ โดยมี นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน และ นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรังกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า สำหรับช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ของเด็กและเยาวชน ซึ่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีความจำเป็นและความต้องการความช่วยเหลือในการแบ่งเบาภาระด้านการลดค่าใช้จ่ายเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน ซึ่ง พม. โดย บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ในสังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้เล็งเห็นความสำคัญในการแบ่งเบาะภาระทางด้านการเงินในการใช้จ่ายค่าอุปกรณ์การเรียนของผู้ปกครอง จึงจับมือกับห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกันจัดกิจกรรมเปิดจุดรับบริจาคอุปกรณ์การเรียน ภายในห้าง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของให้แกเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้พบเห็นต่างร่วมกันนำสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับเด็กและเยาวชนมาบริจาคให้อย่างมากมาย พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรังขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำส่งทุกสิ่งที่ได้รับบริจาคมาส่งต่อให้แก่เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางอย่างครบถ้วน
ด้าน นายพุทธิชัย กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility-CSR) โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ถือเป็นช่วงที่เด็กและเยาวชนเริ่มเปิดเทอมใหม่ ตั้งใจดำเนินโครงการ Back to School อยู่แล้ว ทันทีที่มีบุคลากรของ พม.หนึ่งเดียวประสานเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” รีบตอบรับความร่วมมือโดยทันที และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทางด้านนายนิตินัย กล่าวว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหน่วยงานใน พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง มีความตั้งใจดำเนินโครงการ “เปิดเทอมใหม่ใจฟู ส่งน้องไปเรียน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบางมีอุปกรณ์การศึกษาพร้อมสำหรับการเปิดภาคการเรียน
​และเกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ จึงใช้โอกาสนี้ เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมบริจาคสิ่งของ อุปกรณ์การเรียนเพื่อนักเรียนที่ต้องการสนับสนุน ร่วมมอบอุปกรณ์การเรียนได้ที่จุดรับบริจาคหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น G ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์​​ จังหวัดตรัง ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นอกเหนือจากวันดังกล่าว สามารถบริจาคได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรังโดยตรง หรือโทรแจ้งความประสงค์ในการบริจาคได้ที่โทรศัพท์สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.จังหวัดตรัง ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุและครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว”

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2566 ณ ห้องภัชรัตน์ โรงแรมวัฒนาพาร์ค อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จัดโครงการงานวันผู้สูงอายุและวันแห่งครอบครัวจังหวัดตรัง ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว” โดยมีนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ และมีนางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย สมาชิกในครอบครัวร่มเย็น บุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัวและครอบครัว ผู้สูงอายุที่ได้รับรางวัลและผู้ติดตาม ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดตรัง ผู้แทนศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ผู้แทนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง และประชาชนทั่วไป รวมจำนวน 120 คน กิจกรรมประกอบด้วย เวทีแสดงวิสัยทัศน์ “อนาคตครอบครัวตรัง การชมวิดีทัศน์ “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่าง ที่ดีในสังคมระดับจังหวัด ได้แก่ นายวิรัตน์ แก้วลาย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว ได้แก่ครอบครัว นางโสรญา ช่วยชะนะ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครอบครัวร่มเย็น ได้แก่ครอบครัว นายมะนูญ ถิ่นนัยธร นอกจากนี้ ยังมีการมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ 4 ประเภท รวมจำนวน 12 ราย ได้แก่ เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม จำนวน 4 ราย เกียรติบัตรคลังปัญญาผู้สูงอายุ จำนวน 4 ราย เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว จำนวน 1 ราย และเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติครอบครัวร่มเย็น จำนวน 3 ครอบครัว การจัดบูธแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ จำนวน 6 บูธ ชุดการแสดง จำนวน 2 ชุด ได้แก่ การแสดงรำผ้าขาวม้าประกอบเพลง ชมรมผู้สูงอายุตำบลนาท่ามใต้ และการแสดงรำมโนราห์ประยุกต์ ชมรมผู้สูงอายุโคกหล่อ

นายทรงกลด กล่าวว่า ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานที่เป็นหลักสำคัญที่สุดของสังคม ทำหน้าที่หล่อหลอมและขัดเกลาความเป็นมนุษย์ให้แก่สมาชิกของครอบครัว ด้วยการอบรม เลี้ยงดูให้ความรัก ความเอื้ออาทร ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น ครอบครัวจึงมีความสำคัญและมีอิทธิพลที่สุดต่อชีวิตของทุกคนครอบครัว และในปี 2565 ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” (complete aged society) แล้ว โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี กว่า 12.9 ล้านคน หรือ 20% จากประชากรทั้งหมด และมีการคาดประมาณว่าในอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” (super aged society)

นายทรงกลด กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 กำหนดให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี “เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี “เป็นวันแห่งครอบครัว” และเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมพิเศษในโอกาสดังกล่าวเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ และสร้างกระแสสังคมทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเผยแพร่ภูมิปัญญามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนอื่นตามศักยภาพของตนเอง และเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความความสำคัญของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวเข้าใจบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเพื่อสร้างแนวคิดให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนสังคมและประเทศชาติ และเพื่อรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น
นายทรงกลด กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกภาคส่วนของสังคม ที่มารวมกัน ณ ที่นี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาครอบครัว และกิจกรรมของผู้สูงอายุจังหวัดตรังให้ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ขอชื่นชมและเชิดชูเกียรติแก่ผู้สูงอายุ ครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี และขอขอบคุณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นพี่เลี้ยงและมีส่วนร่วมในการผลักดัน รวมถึงสร้างโอกาสให้กับชุมชน ได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสถาบันครอบครัวและผู้สูงอายุ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ พม.ตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หากประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนสามารถโทรติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังปล่อยขบวนคาราวานและร่วมลงพื้นที่เยียวยาครัวเรือนเปราะบาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

          วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศาลาการเปรียญ วัดในเขา ตำบลบ้าหวี อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง (สนง.พมจ.ตรัง) จัดโครงการคาราวานเยียวยาครัวเรือนเปราะบาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พมจ.ตรัง กล่าวรายงาน กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จังหวัดตรัง และเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดตรัง จำนวน 200 คน ตลอดจนครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่อำเภอหาดสำราญ จำนวน 30 ครอบครัว

       นายทรงกลด กล่าวว่า รัฐบาลเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  ๖ รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศทุกประการ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดตรัง มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ให้ส่วนราชการ หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่  อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถพิจารณาดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่สอดคล้องตามแนวทางที่กำหนด

      นายทรงกลด กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดตรัง ร่วมกับสนง.พมจ.ตรัง กำหนดจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้ชื่อ “โครงการคาราวานเยียวยาครัวเรือนเปราะบางเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมีกิจกรรมด้านพิธีการและกิจกรรมในพื้นที่ สำหรับกิจกรรมในพื้นที่ประกอบด้วยขบวนรถคาราวานจากหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 15 คัน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านครัวเรือนเปราะบางในอำเภอหาดสำราญไปตามจุดเยี่ยมบ้านพร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้าหวี ตำบลตะเสะ และตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ตำบลละ 10 ครอบครัว รวมทั้งสิ้น 30 ครอบครัว 

 


        ทางด้าน นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ พม.หนึ่งเดียว จังหวัดตรัง (One Home พม. จ.ตรัง) ได้รับความร่วมมือจากวัดในเขา และ อพม.จังหวัดตรัง ในการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการเยียวยาครัวเรือนเปราะบาง โดยได้รับการสนับสนุนสมทบทุนบริจาคปัจจัยจากหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดตรัง ตลอดจนเครือข่ายต่างๆ จากทุกภาคส่วน ในการนี้ รายได้ส่วนหนึ่งเป็นค่าเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 30 ชุดแจกจ่ายให้กับประชาชนในครัวเรือนเปราะบาง และเพื่อร่วมบุญปูพื้นรอบอุโบสถ วัดในเขา สุดท้ายนี้ พม.จังหวัดตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นการทำงานแบบ พม.หนึ่งเดียว ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจกระทรวง พม. ให้บรรลุผลเกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการป้องกันปัญหาความรุนแรงต่อสวัสดิภาพของประชาชนโดยในวันนี้ พม.จังหวัดตรังได้เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ช่วยกัน แอดไลน์ ESS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากพบเห็นหรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ถูกข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งและการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัย แก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]