การจดทะเบียนองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕0 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖o ได้กำหนดให้องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนมีสิทธิจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนและมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือ การได้รับการสนับสนุน งบประมาณเงินอุดหนุน หรือการสนับสนุนด้านอื่น 1 และกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๕๓ ในหมวด ๑ ข้อ ๔  ได้กำหนดว่า การยื่นคำขอจดทะเบียนตามข้อ 3 ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครให้ยื่นคำขอต่อสำนักงาน สำหรับในเขตท้องที่จังหวัดอื่นให้ยื่นคำขอต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแห่งท้องที่ที่องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนนั้นตั้งอยู่ และให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่รับคำขอตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนแล้วส่งคำขอให้สำนักงานโดยไม่ชักช้าและระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนแก่องค์กรเอกชน หรือองค์กรชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๒ ข้อ ๘ กำหนดให้ยื่นโครงการ หรือคำขอรับการสนับสนุนต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


One Home พม.จังหวัดตรัง ร่วมจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ

      ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ทีม One Home พม.จังหวัดตรัง นำทีมโดย นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง และนางสาวกิติยา วงศ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดตรัง ร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ จังหวัดตรัง ประจำปี 2567 ภายใต้คำขวัญ “ มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย ในพื้นที่จังหวัดตรัง ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ในการนี้ ได้มีเด็กและเยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรังมาร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คือ สำนักงานการเคหะแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดตรัง นำโดย นายสุวัฒน์ เวียงคำ เคหะจังหวัดตรัง ได้จัดกิจกรรมสร้างความสุขให้กับเด็กๆและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนการเคหะจังหวัดตรัง โดยจัด ณ สวนสาธารณะโครงการเคหะชุมชนตรัง ระยะ 1 จังหวัดตรังอีกด้วย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า วันเด็กแห่งชาติถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ควรค่าแก่การดำรงรักษาไว้ตลอดไป เพราะวันนี้เป็นวันที่เห็นภาพความรัก ความอบอุ่นของคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองแสดงออกต่อบุตรหลานในครอบครัวได้อย่างชัดเจน เด็กๆ มีความสุข สนุกสนาน โดยที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเด็กๆ ได้แสดงออกอย่างเต็มที่ เห็นถึงความน่ารัก ความไร้เดียงสาของเด็กๆ เห็นถึงความรักความเมตตา การดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน ทุกๆ กิจกรรมที่จัดให้เด็กๆ สามารถเติมความสุข สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เด็กและเยาชน ตลอดจนคนทุกช่วงวัยในครอบครัวที่มานั่งเฝ้าดูแลบุตรหลานที่มาร่วมกิจกรรมได้อย่างชัดเจน และงานวันเด็กปีนี้ตนได้มีโอกาสไปร่วมงานวันเด็กหลายแห่ง ทั้งร่วมเป็นประธานเปิดงาน และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน ได้เห็นถึงรูปแบบการจัดงานในที่ต่างๆ ถึงแม้จะต่างสถานที่ในการจัดงาน แต่รูปแบบการจัดงานและภาพแห่งความสุข สนุกสนาน และความน่ารักของเด็กๆ ในทุกที่ไม่มีที่ใดด้อยไปกว่ากันเลย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจัดกิตกรรมวันเด็กแห่งชาติปีนี้ในส่วนที่ One Home พม.จังหวัดตรังร่วมจัดบูธกิจกรรมสร้างความสุขให้กับเด็กๆ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ภายใต้การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ พม.จังหวัดตรังได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนทั้งของรางวัลและพลังคนสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ จากเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่าย CSR ตลอดจนภาคประชาชน รวมกว่า 30 เครือข่าย ซึ่งกิจกรรมแห่งแรก ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรังในซุ้มเพื่อเด็กๆ ได้แก่ กิจกรรมทำขนมโดนัท การเล่มเกมส์ การตอบคำถามชิงรางวัล และมีกิจกรรมการมอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น โดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี และมอบเกียรติบัตรเด็กดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 จากสมาคมสภาสังคมสงเคราห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะที่ได้เข้าร่วมการสรรหาเป็นเด็กดีเด่น จำนวน 2 คน คือ 1) ด.ญ. พราวนภัสสร์ เหล่ากุลวานิช ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพรศิริกุล 2) ด.ช.ขจรศักดิ์ คืนตัก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนตรังรังสฤษฎ์ สำหรับกิจกรรมแห่งที่สองในบูธกิจกรรม ณ สนามกีฬากลางเทศบานครตรัง เป็นความร่วมมือกับเครือข่าย CSR มาร่วมกันจัดกิจกรรมเล่นเกมส์ ตอบคำถาม แจกของรางวัล และมีทีมสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง มาร่วมเล่นดนตรีสด ร้องเพลง พร้อมทั้งทำข้าวไข่เจียวแจกผู้มาร่วมงานกว่าพันฟองอีกด้วย
     นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับเด็ก ๆ ทุกคน ที่กำลังต้องเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่มีความท้าทายมากจากการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เด็กจึงต้องมีการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ทางสังคมได้ ภายใต้คำขวัญ “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่างและร่วมกันสร้างประชาธิปไตย และขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณให้การสนับสนุนของขวัญของรางวัล ในกิจกรรมวันเด็กในวันนี้ทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ตลอดจนองค์กร CSR จังหวัดตรัง สุดท้ายนี้ พม.จังหวัดตรัง พร้อมขับเคลื่อนงานด้านสังคมและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และวันนี้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ขอเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ช่วยกัน แอดไลน์ ESS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยแก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

  วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. นายไมตรี  อินทุสุต อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และอดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนางภาวิณี  อินทุสุต อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง เยี่ยมบ้านนางหนูขิน  รอดไกร ราษฎรหมู่ที่ 6 ตำบลนาโต๊ะหมิง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ซึ่งได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย จากงบประมาณโดยนายไมตรีฯ และภริยา จำนวน 30,000 บาท และงบประมาณโครงการปรับสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย ปี พ.ศ. 2565 โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จำนวน 20,000 บาท พร้อมนี้นายไมตรีฯ และนางภาวิณีฯ ได้มอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จำนวน 150 ราย

          ในการนี้ นางสาวโสพิญฐ์  สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง มอบหมายนายนิติภัทร  จอมเมือง นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ นางสาวรุจิรา  สมจริง นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ และนางสาวสุธาดา  ยกฉวี นักพัฒนาสังคม เยี่ยมบ้านให้กำลังใจ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 1 ชุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย CSR (บริษัทตรังยูซี จำกัด)  รวมทั้งประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงานกระทรวง พม. และระบบรับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (ESS Help Me) แก่ผู้เข้าร่วมงาน ในส่วนของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาโต๊ะหมิง และเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตลอดจนเครือข่ายในพื้นที่เข้าร่วม


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.จังหวัดตรัง ขานรับ Kick Off รณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัว พร้อมกันทั่วประเทศ

      วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงเรียนวัดนานอน ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ จัดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “รวมพลังหยุดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว” (Unite for the Prevention of Violence Against Women & Children) โดยมี นางสาวโสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ และมีนายชาลี เมืองนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ เป็นผู้กล่าวรายงานสรุปความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของโครงการฯ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. (One Home) จังหวัดตรัง สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตรัง อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ครูและนักเรียนโรงเรียนวัดนานอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ กว่า 100 คน ร่วมเดินขบวนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2566 พร้อมแจกเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งเหตุสายด่วน 1300 และ LINE APPlICATION @ESS HELP ME เมื่อพบเจอ หรือประสบเหตุความรุนแรง ตลอดจนให้ข้อมูล ตอบข้อซักถาม แก่ประชาชนตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านระยะทางประมาณ 2 กม.

นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการจัดงานเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวจังหวัดตรังในวันนี้ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พม.จังหวัดตรัง ได้เชิญชวนผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดตรังติดเข็มกลัดริบบิ้นขาว (White Ribbon) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวร่วมกันแล้ว นำโดย นายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สำหรับกิจกรรมเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงฯ ในวันนี้ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เห็นความสำคัญของ “การรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว” จึงได้ขอความร่วมมือทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเพื่อ Kick Off รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว และถ่ายทอดสด ผ่าน Facebook fanpage กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ อีกด้วย

นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ เป็นปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย ซึ่งปรากฏให้เห็นมาเป็นเวลานาน และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี ผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กและสตรี ต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ 1. เมาสุรา/ยาเสพติด 2.ปัญหาสุขภาพกาย/จิต และ 3.นอกใจ/หึงหวง ตามลำดับ ทั้งนี้ ปัญหาความรุนแรงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวมอีกด้วย จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ด้วยการรวมพลังหยุดความรุนแรงฯ หากพบเห็นสามารถแจ้ง ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน ๑๓๐๐ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือ แจ้งผ่านระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ปักหมุด หยุดเหตุ Ess Help Me ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ที่ทุกคนสามารถโหลดติดมือถือไว้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือทุกคนได้ หากตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัย แก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]


พม.ตรังเดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง

       เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30 น. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จัดประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางจังหวัดตรัง ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องมรกต ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยมี นายสกุล ดำรงเกียรติกุล ปลัดจังหวัดตรัง รักษาราชการแทนรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าว นายสยาม  นนท์คำจันทร์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง โดยมี นางสาวโสพิญฐ์  สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมด้วยในฐานะคณะทำงาน และเป็นหน่วยงานหลักที่รับหน้าที่เป็นคณะทำงานและเลขานุการ ตามคำสั่งจังหวัดตรัง เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางจังหวัดตรัง ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ซึ่ง วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมทางรถไฟในจังหวัดตรัง  และพิจารณาแผนการขับเคลื่อนงานฯ ในปี 2566 – 2567 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยคณะทำงานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเครือข่ายพัฒนาสิทธิชุมชนภาคใต้ รวมจำนวน 40 คน

  

       นางสาวโสพิญฐ์  กล่าวว่า แนวทางในการดำเนินโครงการสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ตามที่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้อนุมัติแผนงานและงบประมาณโครงการ สนับสนุนการขับเคลื่อนงานชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง จำนวน 35 จังหวัด 300 ชุมชน 27,084 ครัวเรือน งบประมาณ 7,718 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ภาคใต้ 9 จังหวัด 73 เมือง 171 ชุมชน 15,168 ครัวเรือน  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง  สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยทุกมิติที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และสามารถพัฒนาให้เป็นรูปธรรม/ความสัมพันธ์ในแนวราบ ระหว่างชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ 

         นางสาวโสพิญฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับจังหวัดตรังมีชุมชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ใน 4 อำเภอ 14 ตำบล 26 ชุมชน 1,882 ครัวเรือน โดยเป็นอำเภอห้วยยอด 12 ชุมชน 731 ครัวเรือน อำเภอกันตัง 8 ชุมชน 731 ครัวเรือน อำเภอเมือง 4 ชุมชน 331 ครัวเรือนและอำเภอรัชดา 2 ชุมชน 380 ครัวเรือน โดยในปัจจุบันมีชุมชนที่ได้รับสัญญาเช่าจากการรถไฟประเทศไทยแล้วและได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เรียบร้อยแล้ว อยู่ในระหว่างเตรียมการเบิกจ่ายงบประมาณ และคาดว่าน่าจะดำเนินการก่อสร้างชุมชนได้ในเดือนธันวาคมปีนี้ ประกอบไปด้วย อำเภอเมือง 1 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหนองยวน 2 จำนวน 29 ครัวเรือน  อำเภอห้วยยอด  2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนชายเขาใหม่พัฒนา (ลำภูลา) จำนวน 72 ครัวเรือน   และชุมชนทางล้อ จำนวน 16 ครัวเรือน และอำเภอรัษฎา 1 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนคลองมวน จำนวน 48 ครัวเรือน ทั้งนี้ ในปี 2567 มีแผนจะดำเนินการใน 8 ชุมชน จำนวน 640 ครัวเรือน เพื่อดำเนินการตามแนวทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพนันระบบรางต่อไป

      

          สุดท้ายนี้ นางสาวโสพิญฐ์  ได้กล่าวเน้นย้ำว่างานพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยเป็นงานสำคัญ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ได้รับผลกระทบในด้านที่อยู่อาศัย รวมถึงกลุ่มผู้เปราะบางในสังคม ดังนั้นจึงต้องมีการทำงานแบบมีส่วนร่วมในการช่วยกันผู้ได้รับผลกระทบ เน้นไปถึงการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงให้กับมนุษย์ ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย และด้านที่ดินทำกิน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างร้ายได้ในทุกมิติต่อไป


Share:

[DISPLAY_ULTIMATE_SOCIAL_ICONS]